Oct

โอมาน

Wahiba Sands ที่สวยงามแห่งรัฐสุลต่านโอมาน

ท่ามกลางทะเลทรายสุดกว้างใหญ่ของคาบสมุทรอาหรับ มีผืนทรายแห่งหนึ่งที่งดงามราวกับผลงานศิลป์จากธรรมชาติ “วาฮิบา แซนด์” (Wahiba Sands) หรือที่รู้จักกันในชื่อ Sharqiya Sands คือดินแดนแห่งมนตร์เสน่ห์ที่สะท้อนแสงทองระยิบระยับยามอาทิตย์ลับขอบฟ้าทะเลทรายแห่งนี้เปรียบเสมือน “หัวใจแห่งโอมาน” ที่บอกเล่าความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติและวัฒนธรรมชาวเบดูอิน (Bedouin) อันเก่าแก่ เมื่อยามลมพัดผ่านผืนทราย คลื่นทรายจะเปลี่ยนรูปไปไม่สิ้นสุด ราวกับธรรมชาติกำลังร่ายรำอยู่ต่อหน้าคุณ ที่นี่คือสถานที่ซึ่งนักเดินทางทั่วโลกใฝ่ฝันจะมาเยือน เพื่อสัมผัสรสชาติของความเงียบสงบและความอลังการที่ไม่มีที่ใดเทียบได้ ทุกอณูของทะเลทรายนี้แฝงไปด้วยพลังแห่งความงาม ความท้าทาย และแรงบันดาลใจที่คุณจะไม่มีวันลืม เตรียมใจให้พร้อม แล้วปล่อยให้หัวใจคุณได้หลงทางท่ามกลาง “ทะเลแห่งทรายสีทอง” แห่งรัฐสุลต่านโอมาน

เนินทรายสีทองอมแดงทอดตัวยาวหลายร้อยกิโลเมตร

วาฮิบา แซนด์ ตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศโอมาน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 12,500 ตารางกิโลเมตร มีชื่อมาจากชนเผ่า “อัลวาฮิบา (Al Wahiba)” ซึ่งอาศัยอยู่ในบริเวณนี้มานานหลายศตวรรษ ภูมิประเทศของที่นี่งดงามอย่างน่าทึ่ง ประกอบด้วยเนินทรายสีทองอมแดงทอดตัวยาวหลายร้อยกิโลเมตร และบางลูกมีความสูงถึง 100 เมตร กิจกรรมยอดนิยมคือการ ขับรถ 4WD ลุยทะเลทราย (Dune Bashing) ที่จะทำให้หัวใจเต้นแรงทุกวินาที นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังนิยม ขี่อูฐ (Camel Ride) ชมพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติก หรือพักค้างแรมใน Desert Camp ใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวนับพัน ยามค่ำคืน แสงไฟจากค่ายพักจะสะท้อนกับผืนทราย เกิดเป็นภาพที่งดงามเกินบรรยาย ที่นี่ยังเป็นบ้านของชาวเบดูอินแท้ ๆ ที่ยังคงใช้ชีวิตตามแบบดั้งเดิม เปิดโอกาสให้คุณได้เรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมอาหรับแท้ อีกหนึ่งไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือการชม Sunrise & Sunset Viewpoint ซึ่งเปลี่ยนท้องฟ้าให้กลายเป็นผืนผ้าใบสีทองชมพูอันน่าประทับใจ วาฮิบา แซนด์จึงไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยว แต่คือประสบการณ์แห่งชีวิตที่คุณจะหลงรักตั้งแต่ก้าวแรก

วาฮิบา แซนด์ ตั้งอยู่ในเขต Ash Sharqiyah Region ของโอมาน ห่างจากเมืองหลวง มัสกัต (Muscat) ประมาณ 200 กิโลเมตร หรือใช้เวลาเดินทางราว 2-3 ชั่วโมงโดยรถยนต์ นักท่องเที่ยวสามารถเริ่มต้นจากมัสกัต มุ่งหน้าไปยังเมือง อิบรา (Ibra) หรือ อัลมินตารีบ (Al Mintarib) ซึ่งเป็นจุดทางเข้าทะเลทราย มีบริการรถขับเคลื่อนสี่ล้อพร้อมไกด์ท้องถิ่น ที่จะพาคุณฝ่าคลื่นทรายเข้าสู่ใจกลางของวาฮิบาได้อย่างปลอดภัย เส้นทางระหว่างทางเต็มไปด้วยทิวทัศน์ของภูเขาหินสลับกับผืนทรายกว้างสุดตา ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินทางผ่านโลกอีกใบ ที่นี่มีค่ายพักหลากหลายระดับ ตั้งแต่แบบหรูหราพร้อมเครื่องปรับอากาศ ไปจนถึงแบบเบดูอินแท้ที่ใช้เต็นท์ผ้าสักหลาด ไม่ว่าคุณจะเป็นสายผจญภัยหรือสายโรแมนติก ที่นี่มีมุมสำหรับทุกหัวใจนักเดินทาง และเมื่อค่ำคืนมาถึง ลองนอนมองดวงดาวระยิบระยับเหนือผืนทราย พร้อมจิบชาอาหรับหอมกรุ่น ความสุขที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้งเกินคำบรรยาย

ทะเลทรายวาฮิบา VS ทะเลทรายรุบอ์ อัล คาลี

โอมานเป็นประเทศที่มีภูมิประเทศหลากหลาย โดยมีทะเลทรายหลัก ๆ ที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในการท่องเที่ยว 2 แห่ง และมีพื้นที่ทะเลทรายอื่น ๆ อีก

1. วาฮิบา แซนด์ส (Wahiba Sands) หรือ ชาร์กียา แซนด์ส (Sharqiyah Sands) เป็นทะเลทรายที่มีชื่อเสียงที่สุดและเข้าถึงง่ายที่สุดในโอมาน ตั้งอยู่ในเขตผู้ว่าการชาร์กียา (Sharqiyah) มีขนาดประมาณ 12,500 ตารางกิโลเมตร เป็นที่อยู่อาศัยของชาวเบดูอิน (Bedouin) มาหลายพันปี มีเนินทรายที่ใหญ่และสูงชัน มีตั้งแต่สีส้มแดงไปจนถึงสีเหลืองทอง ภูมิประเทศเป็นแบบคลื่นทรายที่สวยงามและกว้างใหญ่ ความนิยมท่องเที่ยวสูงมากถือเป็นจุดหมายปลายทางทะเลทรายอันดับ 1 สำหรับนักท่องเที่ยว มีการตั้งแคมป์และที่พักสไตล์รีสอร์ทกลางทะเลทราย (Desert Camps) หลายแห่ง

ไฮไลท์น่าสนใจ

- Dune Bashing : การขับรถโฟร์วีลตะลุยเนินทรายอย่างตื่นเต้น

- ขี่อูฐ (Camel Riding) : กิจกรรมยอดนิยมชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก

- ชมวิถีชีวิตชาวเบดูอิน : สัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมและพักค้างคืนภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืน

- Sandboarding : เล่นสกีหรือบอร์ดบนเนินทราย

2. รุบอ์ อัล คาลี (Rub' al Khali) หรือ ดิ เอ็มตี้ ควอเตอร์ (The Empty Quarter) (ส่วนที่อยู่ในโอมาน)

ทะเลทรายผืนทรายต่อเนื่องที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุมหลายประเทศ และส่วนหนึ่งอยู่ทางใต้ของโอมาน ชื่อมีความหมายว่า "หนึ่งส่วนสี่ที่ว่างเปล่า" เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายและไม่มีคนอาศัยอยู่มากนัก ขนาดรวมใหญ่มาก ครอบคลุมซาอุดีอาระเบีย ยูเออี เยเมน และโอมาน ส่วนที่อยู่ในโอมานตั้งอยู่ทางภาคใต้ ใกล้กับเมืองซาลาลาห์ (Salalah) เนินทรายของที่นี่มีขนาดใหญ่และสูงที่สุดในโลก บางแห่งสูงถึง 300 เมตร สีทรายมักเป็นสีเหลืองหรือน้ำตาลทอง (สีจะแตกต่างกันไปตามพื้นที่)เป็นทะเลทรายแบบ Mega-dune หรือ "มหาเนินทราย"

ความนิยมท่องเที่ยวต่ำกว่าวาฮิบา แซนด์ส เนื่องจากเข้าถึงยากกว่าและมีความโหดร้ายทางธรรมชาติมากกว่า มักเป็นทริปผจญภัยที่ต้องมีการวางแผนอย่างดีและใช้เวลาหลายวัน

ไฮไลท์น่าสนใจ

- ความยิ่งใหญ่และเงียบสงบ: สัมผัสความเวิ้งว้างและความเงียบงันแบบไร้ขีดจำกัดอย่างแท้จริง

- ค้นหาเมืองอุบาร์ (Ubar): หรือ "แอตแลนติสแห่งผืนทราย" เมืองในตำนานที่เชื่อว่าจมอยู่ใต้ผืนทราย (ซากโบราณสถานใกล้เคียง)

- การผจญภัยที่ท้าทาย: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์ทะเลทรายที่ห่างไกลจากความศิวิไลซ์

เกร็ดความรู้

- วาฮิบา แซนด์ ถูกประกาศให้เป็นเขตอนุรักษ์ทางธรรมชาติ เนื่องจากเป็นแหล่งอาศัยของสิ่งมีชีวิตกว่า 200 ชนิดของสัตว์ และ 150 ชนิดของพืช

- ชาวเบดูอินในพื้นที่ยังคงดำรงวิถีชีวิตดั้งเดิม เช่น การเลี้ยงอูฐ การทอผ้า และการต้อนแพะไปตามฤดูกาล
- ทรายของที่นี่มีหลายเฉด ตั้งแต่สีทองอ่อนจนถึงแดงเข้ม ขึ้นอยู่กับแสงอาทิตย์ในแต่ละช่วงเวลา
- อุณหภูมิเฉลี่ยในช่วงกลางวันอาจสูงกว่า 40°C ส่วนกลางคืนอากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การดูดาว
- พื้นที่ทะเลทรายมีระบบ GPS ให้บริการบางส่วน แต่สัญญาณมือถืออาจไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่
- จุดถ่ายภาพยอดนิยมคือบริเวณ Sunset Dune Viewpoint ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งดงามที่สุดในโอมาน