
16
Oct
จีน
Yungang Grottoes 1 ใน 3 ถ้ำทางพระพุทธศาสนา อายุ 1500 ปี
หากเอ่ยถึงหนึ่งในสุดยอดงานศิลป์แห่งโลก “ถ้ำแกะสลักหยุนกัง (云冈石窟 – Yúngāng Shíkū)” คือสมบัติอันล้ำค่าของอารยธรรมจีนที่สะท้อนความรุ่งเรืองของพุทธศิลป์ในยุคโบราณได้อย่างงดงาม ภายในถ้ำซ่อนเร้นด้วยประติมากรรมพระพุทธรูปนับหมื่นองค์ ที่แกะสลักด้วยมือมนุษย์บนหน้าผาหินทรายอย่างวิจิตรทุกอณู ทุกมุมคือเรื่องราวแห่งความศรัทธาและความยิ่งใหญ่ของพระพุทธศาสนาในแดนมังกร การได้มายืนต่อหน้าองค์พระหินที่สูงตระหง่านราวกับมีชีวิต คือประสบการณ์ที่ตราตรึงและน่าหลงใหลอย่างที่สุด
มหัศจรรย์แห่งถ้ำพุทธศิลป์
ถ้ำหยุนกังตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาอู่โจวซาน (武周山 ) เมืองต้าถง มณฑลซานซี สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์เว่ยเหนือ (北魏) ราวคริสต์ศตวรรษที่ 5 โดยพระภิกษุชื่อ “ถันเย่า” (昙曜) เป็นผู้ริเริ่มแกะสลักถ้ำใหญ่ทั้ง 5 แห่ง เพื่อสรรเสริญพระพุทธเจ้าและประกาศศรัทธาแห่งธรรม ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่พระพุทธรูปองค์ใหญ่สูงกว่า 17 เมตรภายในถ้ำที่ 5 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งหยุนกัง ถ้ำแต่ละแห่งยังประดับลวดลายพุทธประวัติอย่างละเอียด ปรากฏอิทธิพลศิลปะจากกรีก อินเดีย และเปอร์เซีย ผสมผสานกับเอกลักษณ์จีนอย่างกลมกลืนจนได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 2001






แกะสลักบนภูผาแห่งศรัทธา
ถ้ำแกะสลักหยุนกังตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองต้าถงเพียงประมาณ 16 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราว 30 นาทีโดยรถยนต์ จากปักกิ่งสามารถเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงหรือเที่ยวบินตรงมายังต้าถงได้อย่างสะดวก เส้นทางภายในถ้ำมีการจัดระเบียบและแสงไฟส่องให้ชมได้ชัดเจนทุกมุม ทั้งยังมีพิพิธภัณฑ์จัดแสดงประติมากรรมจำลองและภาพสลักโบราณ การมาเยือนที่นี่ไม่เพียงเป็นการท่องเที่ยว แต่คือการเดินทางย้อนสู่อดีตแห่งพุทธศิลป์ที่ยิ่งใหญ่ ควรค่าแก่การสัมผัสด้วยตาและหัวใจอย่างแท้จริง
เกร็ดความรู้
ถ้ำหยุนกังมีมากกว่า 252 ถ้ำ และประติมากรรมกว่า 51,000 องค์ นับเป็นหนึ่งใน “三大石窟 (ซานต้าสือคู)” หรือ “สามถ้ำพุทธศิลป์ยิ่งใหญ่ของจีน” ร่วมกับถ้ำหลงเหมิน (龙门石窟) และถ้ำม่อเกา (莫高窟) พระพุทธรูปที่นี่มีขนาดตั้งแต่เพียงไม่กี่เซนติเมตรจนถึงสูงเท่าตึก 5 ชั้น ศิลปะส่วนใหญ่ยังคงสภาพเดิมแม้เวลาผ่านมากว่าพันห้าร้อยปี ถ้ำหมายเลข 20 คือจุดที่นิยมถ่ายภาพมากที่สุด มีพระพักตร์ของพระพุทธเจ้าที่งดงามและอ่อนโยนที่สุดในเอเชีย คำว่า “หยุนกัง” (云冈) หมายถึง “หุบเขาแห่งเมฆา” สื่อถึงความสงบและศักดิ์สิทธิ์ราวอยู่เหนือโลกีย์ ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงเป็นช่วงที่อากาศดีที่สุด เหมาะแก่การเยี่ยมชม สถานที่แห่งนี้คือจุดหมายในฝันของผู้หลงใหลในศิลปะ พุทธศาสนา และประวัติศาสตร์จีนโบราณ










